สมัครสมาชิก LIVE22 วันนี้ รับโบนัสทันที 50% ตั้งแต่ครั้งแรกที่สมัคร รวมถึงโปรโมชั่นและกิจกรรมต่างๆ มากมาย เราคือบริษัทแม่ LIVE22 การเงินมั่นคง ฝาก-ถอน ออโต้ ฉับไว ไม่ต้องส่งสลิป 3 วินาที มีพนักงานให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

หน้าหลัก บทความ

เกม Open World

1721 views

เกม Open World ที่ดีที่สุดบน PC

เกม Open World เกมแนวสำรวจโลกกว้างที่หลายคนชื่นชอบ เกมไหนดี เกมไหนโดน มาดูกัน หากย้อนกลับไปในอดีต เราคงไม่ได้เห็นเกมแนว Open World มากมายแบบในสมัยนี้ ล่วงเลยมาจนถึงยุค 2000 เกมแนว Open World

เริ่มมีมาให้เห็นกันมากขึ้น และส่วนใหญ่ทำลง PC เพราะในขณะนั้นเครื่องคอนโซลยังไม่รองรับเกมที่มีสเกลใหญ่ขนาดนั้น จนปัจจุบันเกม Open World ถือเป็นแนวเกมที่แยกออกมาชัดเจน ทีมพัฒนาทั้งหลายก็อยากทำเกมแนวนี้มาขายแข่งกันทั้งใน PC

และคอนโซล จนมีมากมายหลากหลายเกมให้เราได้เลือกเล่นกัน และในบทความนี้ เราจะหยิบยก เกม Open World ที่ดีที่สุดบน PC มาให้ทุกท่านได้อ่านกัน เอาล่ะถ้าพร้อมแล้ว ไป
10 เกมออนไลน์ 2019

1. Grand Theft Auto V

เกม Open World

เกมที่เน้นเกี่ยวกับการปล้น หรือขโมยตลอดทั้งเกม จากทีมพัฒนา Rockstar วางขายในปี 2013 ถือเป็นการเปิดประสบการณ์โลกแห่งการปล้นที่ยิ่งใหญ่กว่าที่เคยทำมา ตัวเกมมันใหญ่กว่าภาค San Andreas และเราจะได้เป็น 3 ตัวละคร

คือ MichaelFranklin และ Trevor อาศัยอยู่ในเมืองสมมติที่มีหน้าตาคล้าย Los Angeles ชื่อว่า Los Santos ภายในเกมมี Easter Egg ร้านค้า กีฬา รวมไปถึงภารกิจให้ทำเยอะแยะมากมาย ถ้าเล่นกันจริงๆ อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 100 ชั่วโมงเลยทีเดียว

พร้อมทั้งยังมีโหมดออนไลน์อย่าง GTA Online ที่ยังคงเปิดให้เล่นและอัพเดทอย่างต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ ให้ผู้เล่นได้บันเทิงไปกับผู้เล่นมากมาย และการแข่งขันที่สนุกเฮฮาซึ่งต่างออกไปจากเนื้อเรื่องหลักนั่นเอง

2. Batman Arkham Knight

เกม Open World

ถือเป็นภาคปิดตำนานอัศวินรัตติกาลในเมือง Arkham นั่นแหละครับ เกมจากทีมพัฒนา Rocksteady วางขายในปี 2015 ภายในเกมเราจะได้สำรวจโลกเมือง Arkham ยามค่ำคืน มีโจรผู้ร้ายมาให้เราปราบ และมีตัวร้ายมาโผล่ในเกมหลายตัว

เช่น RiddlerScarecrow รวมไปถึงคู่ปรับตลอดกาลของ Batman อย่าง joker ด้วย รวมไปถึงตัว Batman เองก็มีอุปกรณ์เจ๋งๆ อย่าง Grapple ไว้ยิงสลิงเพื่อขึ้นที่สูง หรือรถ Batmobile ไว้ขับไปตามทางถ้าไม่อยากบินไปไกลๆ ใครที่เป็นแฟน DC แนะนำให้เล่นเกมนี้ครับ เพราะมีอะไรให้ทำและสำรวจเยอะมาก รวมถึง Easter Egg ด้วย

3. Assassin’s Creed Odyssey

เกม Open World

ตำนานภาคีมือสังหารภาคล่าสุดจากทาง Ubisoft ที่วางขายเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา เราจะได้เล่นเป็นหนึ่งในตัวละครที่สามารถเลือกได้คือ Alexios และ Kassandra ตะลุยโลดแล่นในโลกของอารยธรรมกรีกโบราณ รวมไปถึงเรื่องราวของเหล่านักรบ

Sparta, slotxo ก็เป็นสิ่งที่มีในเกม โลกภายในเกมนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมากครับ โดยจำลองพื้นที่ของกรีกโบราณขนาดกว่า 100 ตารางกิโลเมตร ให้ผู้เล่นได้ขี่ม้าสำรวจบนพื้นดิน หรือล่องเรือสำรวจพื้นที่ทางทะเล และเกมมีความเป็น RPG เพิ่มเข้ามาทำให้ผู้เล่นต้องอัพเกรดตัวละครอยู่ตลอด และอาจต้องใช้เวลาเล่นนานพอสมควรกว่าจะจบเกม อีกทั้งเนื้อเรื่องไม่เป็นเส้นตรง เพราะมีทางเลือกให้เราตัดสินใจนั่นเองครับ

4. Just Cause 4

เกม Open World

สุดยอดเกมระเบิดภูเขาเผากระท่อม จากทีมพัฒนา Avalanche Studios เกมวางขายเมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา โดยเราจะได้เล่นเป็นตัวเอกคือ Rico Rodriguez  ซึ่งในภาคนี้เราจะได้มาช่วยเหลือชาวเมืองจากการยึดครองของพวก Black Hands ภายในเกาะชื่อ

ว่า Solis PG SLOT“เราสามารถสำรวจเมืองได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะขับรถ ขับเรือ ขับเครื่องบินไปตามที่ต่างๆ รวมไปถึงเกมนี้มีเรื่องของภัยธรรมชาติแถมมาด้วย ทั้งพายุงวงช้าง พายุฟ้าคะนอง พายุหิมะ และพายุทราย สำหรับเกมนี้ถ้าในเรื่อง Open World ถือว่าทำได้ดี แต่ตัวเกมภาพรวมถือว่าไม่ค่อยดีนักครับ แต่ถ้าใครอยากเล่นก็ลองกันได้ หรือซื้อตอนมันลดราคาก็ดีเหมือนกัน

5. Watch Dogs 2

5. Watch Dogs 2

เกมจากทีมพัฒนา Ubisoft ที่วางขายเมื่อปี 2016 เป็นภาคต่อของเกม Open World บนโลกของการแฮคเพื่ออิสรภาพ ในภาคนี้เราจะได้รับบทเป็น Marcus หนึ่งในเหล่า Hacker ของกลุ่ม DedSec เพื่อสร้างเครือข่ายและฐานแฟนคลับในการต่อต้านบริษัทที่มาจำกัด

ขอบเขตการใช้ชีวิตในโลกโซเชียล ซึ่งเกมนี้ตั้งสถานที่อยู่ในเมือง San Francisco ความเจ๋งของเกมคือเราสามารถแฮคได้ทุกอย่างภายในเกม ตั้งแต่สมาร์ทโฟน ไฟจราจร กล้องวงจรปิด รวมไปถึงโดรนลาดตระเวน หรือแม้กระทั่งเอาไว้ล่อพวกศัตรูหรือ Guard ตอนทำภารกิจได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งเกมที่ดี และใช้การนำเสนอเรื่องราวตีแผ่สังคมและการเมืองสอดแทรกไว้ในเกม

เกม Open World ที่ดีที่สุดบน PC
6. Metal Gear Solid V: The Phantom Pain

6. Metal Gear Solid V: The Phantom Pain

สุดยอดเกม Open World ที่ไม่สมบูรณ์มากนัก (ขอไม่นับภาค Survive ละกัน) ที่วางขายในปี 2015  จากทีมพัฒนา Kojima Productions ซึ่งมีประเด็นดราม่ากับ Konami และ PGSLOT ตั้งแต่ทำเกมออกมา ถึงตัวเกมจะไม่สมบูรณ์ แต่โลก Open World ภายในเกมถือว่าสุดยอดมาก แถมเกมไม่กินสเปกอีกด้วย โดยเกมลอบเร้นสมัยใหม่ที่หยิบเอา

สงครามในอัฟกานิสถาน และเขตชายแดนประเทศแองโกลา-ซาอีร์มาเป็นฉากหลังในเกม และเกมได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นใหม่ได้มาลองระบบเกมใหม่ที่เข้ากับยุคสมัย เล่นง่ายไม่ซับซ้อน ตัวเอกของเกมก็คือ Big Boss หรือ Venom Snake ซึ่งเคยมีบทบาทในภาค Snake Eater และภาค Peace Walker สำหรับใครที่อยากลองเกมลอบเร้นที่สนุกตื่นเต้น เกมนี้แนะนำให้ลองครับ

เกม Open World ที่ดีที่สุดบน PC 7. Farcry 5

Farcry 5

เกมไกลตะโกนภาคล่าสุดจาก Ubisoft วางขายเมื่อต้นปี 2018 ที่ผ่านมา ในเกมนี้เราจะได้รับบทเป็น ปลัดอำเภอที่ได้เข้ามาจับกุมหัวหน้าลัทธิวันสิ้นโลกที่ชื่อว่า Project of Eden’s Gate ในเขตพื้นที่ Hope County รัฐ Montana บาคาร่า โลกในเกมถือว่ากว้างใหญ่ให้เราได้สำรวจอะไรหลายอย่าง รวมไปถึงจะมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดมาแบบสุ่ม ให้ผู้เล่นได้พบเจอทั้งฝูงหมีโฉด, ทหารระดับ VIP, การปิดกั้นถนน, การช่วยตัวประกัน, การขับรถไล่ล่า และอื่นๆ อีกมากครับ ส่วนตัวผมแนะนำว่าให้หามาเล่นครับ เพราะภาคใหม่กำลังจะมาในเดือนกุมภาพันธ์นี้ซึ่งมีชื่อว่า Farcry New Dawn ซึ่งเป็นภาคต่อจาก Farcry 5 นั่นเอง

เกม Open World 8. Saint Row 4

Saint Row 4

สุดยอดเกมเกรียนและตลกโปกฮาจากทีมพัฒนา Volition ที่วางขายในปี 2013 โดยโลกของเกมจะตั้งอยู่ที่ Steelport เมืองอันกว้างใหญ่ที่ให้เรามีอิสระในการสำรวจ อะไรก็ตามที่มันเกรียนๆ คุณสามารถทำได้ในเกมนี้ รวมไปถึงเนื้อเรื่องเกมมีเรื่องราวของการที่เอเลี่ยนมาบุกถึงโลกมนุษย์ด้วย ซึ่งก็มีเรื่องราวแปลกๆ เพี้ยนๆ ให้เราได้เห็นกัน ถ้าอยากรู้ว่าเกมเป็นยังไงก็ลองหามาเล่นดูนะ

9. No Man’s Sky

No Man’s Sky

เกมจากทีมพัฒนา Hello Games live22” วางขายเมื่อปี 2016 ในช่วงเกมวางขายแรกๆนั้นไม่ประสบความสำเร็จ และทีมงานก็ได้แก้ไขตัวเกม จนเกมมันออกมาดีและคนก็แห่กันไปเล่นมากขึ้น จึงกลายเป็นเกม Open World แนวสำรวจดวงดาวที่ดีที่สุดในขณะนี้ มีดวงดาวให้เราสำรวจมากมาย รวมไปถึงการค้นหาแหล่งที่อยู่อาศัย สิ่งมีชีวิต การหาของหรือขุดเหมืองก็ยังทำได้ รวมไปถึงเกมมี Mod ให้ได้ใช้อย่างเต็มที่ ส่วนตัวผมแนะนำให้เกมเล่นนี้กับเพื่อนครับ สนุกแน่นอนและเล่นได้ยาวๆ เลยล่ะ

10. The Witcher 3: Wild Hunt

Witcher 3: Wild Hunt

เกมแนว Open-World Action RPG ซึ่งสร้างมาจากนวนิยายแฟนตาซีสุดดังของนักเขียนชาวโปแลนด์ Andrzej Sapkowski เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการพจญภัยของ Geralt ผู้สืบสายเลือดตระกูล Witcher โดยภารกิจหลักของภาคนี้พระเอกของเราต้องต่อสู้กับเหล่าร้ายที่กำลังเข้าครอบงำผู้มาบุกรุกใน Northern Kingdoms ซึ่งเราต้องเข้าไปพจญภัยในป่าที่เต็มไปด้วยสัตว์ป่าและปีศาจตลอดเส้นทางการเดินทาง

ด้วยคะแนนและคำวิจารณ์ทั้งจากสื่อและผู้เล่นในแง่บวกอย่างล้นหลาม เกมเพลย์ที่ลึกซึ้ง บทสนทนาและการเลือกที่อิสระ จะทำให้คุณดำดิ่งกับเนื้อเรื่องเป็นหลักหลายร้อยชั่วโมง และยังสุดยอดอยู่จนถึงทุกวันนี้ เป็นเกมที่เป็นเหมือนโลกของมันอีกใบเลย เป็นเกมที่สมบูรณ์แบบในทุกๆทาง บรรยากาศภาพที่สวยงาม โลกที่แฟนตาซีและตอบสนองกับการกระทำของเรา ระบบการต่อสู้ที่หลากหลายและน่าสนใจ เนื้อเรื่องและตัวละครที่ทุกการตัดสินใจของเรามีผลกับมัน มีมินิเกมให้เล่นในเกมอีกทีที่ค่อนข้างจริงจังอีกด้วย ถือเป็นผลงานที่เยี่ยมยอดจริงๆ ดังขนาดมีการทำเป็นซีรีส์ฉายบน Netflix ไปแล้ว 1 ซีซั่นและได้รับเสียงตอบรับที่ดีไม่แพ้เกมเลย

เกม Open World ที่ดีที่สุดบน PC

ความจริงมีเกมแนวนี้ในอดีตแต่มันมีนานมาแล้วชื่อว่า The Elder Scrolls II: Daggerfall ที่เป็นนิยามของเกม Open World ตั้งแต่นั้นมาเราเลยเห็นเกมแนวนี้มากขึ้น และมีให้เลือกเล่นกันเยอะแยะมากมาย แน่นอนว่า เกมที่จะวางขายในปีนี้ยังมีหลายเกมที่เป็น Open World ก็รอติดตามกันต่อไป ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเล่นเกมนะครับ แล้วพบกันใหม่จ้า

Last Update : 30 ตุลาคม 2020